เป็นคำถามที่ถูกถามกันมากว่า “การจะไม่ให้แก่ ต้องรับประทานอาหารเสริมประเภทไหน
ถึงจะดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
ก่อนอื่นขอสรุปถึงพื้นฐานซึ่งต้องปฏิบัติทุกวัน นั่นคือ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายวันละ 30-45 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน การดื่มน้ำ สะอาดบริสุทธิ์อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร การควบคุมความดัน เบาหวาน คลายความเครียด โดยทำกิจกรรมที่รักหรือชื่นชอบ เช่น ร้องเพลง อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ทำสวน ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต นวดเพื่อการผ่อนคลาย และสุดท้ายคือ การเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยต้องเสริมทุกระบบตั้งแต่เสริมบำรุง สมอง เช่น เพรกนิโนโลน 50-100 มิลลิกรัมวันละครั้ง เสริมบำรุงสายตา เช่น วิตามินซี วิตามินอี และเซเลเนียม วันละครั้ง เสริมบำรุงหัวใจ เช่น CoQ10 วันละ 1-2 ครั้ง เสริมบำรุงข้อวันละ 2 ครั้ง รับประทาน DHEA ในผู้ชายประมาณวันละ 25-50 มิลลิกรัม เมลาโตนิน 0.5 – 1 มิลลิกรัม แคลเซียมวันละ 1,000 – 1,500 มิลลิกรัม แมกนีเซียมวันละ 1 – 2 ครั้ง รับประทานสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น SOD, OPC, glutathione หรือกรดแอลฟาไลโปอีก ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหล่านี้ ถ้ายังไม่ แน่ใจอาจให้แพทย์ทางเวชศาสตร์ชะลอวัย ช่วยแนะนำหรือเลือกให้ก่อน ผู้หญิงวัยทอง อาจทําการเสริมด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสโตโรน แคลเซียม เป็นต้น
ก่อนที่ผู้เขียนจะมาศึกษาเรื่องศาสตร์ ทางด้านการชะลอวัย ผู้เขียนไม่เคยเชื่อ เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเสริมหรือวิตามิน ต่าง ๆ เหล่านี้เลย แต่หลังจากเริ่มศึกษา และได้สัมผัสกับบุคคลต่าง ๆ ซึ่งประสบกับ ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง ซึ่งแพทย์แผน ปัจจุบันบางครั้งอาจทำการรักษาได้ถึงจุดหนึ่ง แต่เมื่อได้ทำการรักษาเสริมพบว่า คนไข้หลายรายมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนซึ่งคงต้อง ทำการวิจัยเพื่อการสรุปผลที่แน่ชัดต่อไป เพื่อนของผู้เขียนหลายคนได้มาเข้าโปรแกรม ชะลอวัย และสามารถพบความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง บางคนมีปัญหาเกี่ยวกับ เพศสัมพันธ์ เนื่องจากอวัยวะเพศไม่แข็งตัว แต่เมื่อเข้าโปรแกรมแล้วอาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากฮอร์โมนถูกกระตุ้นให้มีระดับสูงขึ้น ดังนั้น สมรรถภาพทางเพศ จึงกลับมาเหมือนวัยหนุ่ม-สาว นอกจากนั้นยังพบว่า หลายคนก็มีความจำดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด บางคนมีหน้าตาผิวพรรณสดใส ซึ่งความสวยและผิวพรรณที่สดใส ก็เป็นผลที่แสดงให้เห็นได้ภายนอก แต่ก็มาจากการที่สภาวะภายในร่างกายดีขึ้น อย่างชัดเจน
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า อาหารเสริมมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย ที่เซลล์ของเราจะทำงานได้สมบูรณ์ เซลส์จะต้องอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน antioxidant และฮอร์โมนอย่างครบถ้วนทั้งหมด ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน ป้องกันโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น การดูดซึมสารอาหาร ทั้ง ๆ จะลดลง เนื่องจากอาจมีความผิดปกติจากภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานลดลง (Subconical Hypothyroidism) นอกจากนั้น สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ รวมทั้ง กระบวนการดัดแปลงอาหารต่าง ๆ ก็ทำให้อาหารที่เรารับประทานอยู่ทุกวันนี้ มีการสลายไปของวิตามินต่าง ๆ ค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเสริม และเราต่าง ๆ ซึ่งบุคคลที่ควรจะรับประทานอาหารเสริมนั้น ได้แก่ คนที่มี อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่กระฉับกระเฉง นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม ภูมิแพ้ ผมร่วง เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หวัดเรื้อรัง สมาธิสั้น เครียด พักผ่อนน้อย ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารหวาน ของย่าง ของทอด ผู้ที่ต้อง ทำงานนั่งโต๊ะนาน ๆ หรือแม้แต่คนที่มีสุขภาพดี หรือนักกีฬา แต่ต้องการสมรรถนะ สูงสุด ก็สามารถเสริมวิตามินเหล่านี้ได้
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังคงนิยมเลือกซื้ออาหารเสริมรับประทานกันเอง เนื่องจากประหยัด และเชื่อว่าก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำ ว่าควรจะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาหารเสริมเหล่านี้ ทั้งข้อดี ข้อเสีย และหาก เป็นไปได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะให้คำแนะนำในเรื่องการเสริมอาหารได้อย่างดีที่สุด
ที่มา พญ. อัญรัตน์ ตั้งกิจงามวงศ์
เวชศาสตร์ชะลอวัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 4) จากพื้นฐานสู่แนวปฏิบัติ
(Anti Aging Medicine Vol. 1 (4th Edition) Basic to Practical), -กรุงเทพ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2564
หน้า 159 – 163